ส.อ.ท. ยิงตรงแบงก์ชาติ ขอลดดอกเบี้ย เหตุเทียบเพื่อนบ้านแพงกว่า ทำต้นทุนพุ่ง
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ระดับ 2.5% ว่า อยากเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาอัตราดอกเบี้ย ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 2.5% เป็นอัตราที่สูง และยังไม่มีกลไกกำกับดูแลว่า ควรจะอยู่ที่อัตราเท่าไร เนื่องจากหากเปรียบเทียบตัวเลขระหว่างเงินกู้ไทยเทียบกับประเทศอาเซียน ของไทยถือว่าสูงกว่ามาก ดังนั้นอาจต้องพิจารณาระดับที่เหมาะสม
“ผมขอไม่ก้าวล่วงธนาคารแห่งประเทศไทย แต่อยากจะขอร้องให้ช่วยกลับไปดู เพราะประเทศเพื่อนบ้านขึ้นดอกเบี้ยเฉลี่ยน้อยกว่าไทย ดังนั้นจึงยังมีประเด็นอื่นที่ต้องดู อาจขึ้นอยู่กับวิธีบริหารจัดการของธนาคาร และอาจต้องดูทั้งระบบ จึงอยากให้รีวิวเรื่องนี้ ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องปรับลงมากเหมือนสิงคโปร์”
ส่วนผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนม.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 90.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 88.8 ในเดือนธ.ค. 66 มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับอานิสงส์มาตรการอีซี่ อี–รีซีฟ ในช่วงวันที่ 1 ม.ค-15 ก.พคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 67 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว วีซ่า-ฟรี ส่งผลให้ในช่วงเดือนม.ค. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยกว่า 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27.8% ขณะที่ภาคการส่งออกฟื้นตัวดีขึ้นตามอุปสงค์ในตลาดโลก และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐ ตะวันออกกลาง และอินเดีย ยังมีปัจจัยลบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินกิจการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ขณะที่สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้นจากความกังวลปัญหาหนี้ครัวเรือน
“ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก ยังเผชิญกับต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากอัตราค่าระวางเรือ ค่าธรรมเนียมและค่าประกันต่าง ๆ ที่เกิดจากปัญหาการโจมตีเรือขนส่งสินค้าบริเวณคลองสุเอซและทะเลแดง ขณะที่ การขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและยุโรปใช้ระยะเวลานานขึ้น เนื่องจากต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือผ่านแหลมกู๊ดโฮป”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจโลก 82.5% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 73.7% ราคาน้ำมัน 50.1% เศรษฐกิจในประเทศ 45.2% ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง เช่น อัตราแลกเปลี่ยน โดยอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ 41.5% สถานการณ์การเมืองในประเทศ 35.0%
“ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 98.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 96.2 ในเดือนธ.ค. 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงมาตรการแก้ไขหนี้นอกระบบ มาตรการพักชำระหนี้เอสเอ็มอี”