EGCO ซื้อหุ้น 50% พอร์ตโรงไฟฟ้าคัมแพซ ในสหรัฐฯ กำลังผลิต 1,304 เมกะวัตต์

EGCO เข้าซื้อหุ้น 49% เสร็จสิ้น โรงไฟฟ้าความร้อนสหรัฐฯ กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์

“EGCO” จับมือ “เจร่า เอเชีย” ศึกษาใช้ไฮโดรเจน-แอมโมเนีย ผลิตไฟฟ้า

EGCO โชว์กำไร 1,460 ล้านบาท ไตรมาสสองพุ่ง 288% ขาดทุนค่าเงินลดลง

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป (EGCO) เปิดเผยว่า เอ็กโก คัมแพซ ทู แอลแอลซี (EGCO Compass II, LLC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด และจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัทในเครือโลตัส อินฟราสตรักเชอร์ พาร์ทเนอร์ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.66 เพื่อเข้าถือหุ้นสัดส่วน 50% ใน “พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าคัมแพซ”

ซึ่งเป็นพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 3 แห่ง

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ประกอบด้วยมาร์คัส ฮุก เอ็นเนอร์ยี่ แอลพี (มาร์คัส ฮุก) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 912 เมกะวัตต์ ส่วนมิลฟอร์ด พาวเวอร์ แอลแอลซี (มิลฟอร์ด) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 205 เมกะวัตต์ และไดตัน พาวเวอร์ (ไดตัน) เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 187 เมกะวัตต์

ขณะที่โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองใหญ่ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงมาก ได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์ โดยพื้นที่เหล่านี้มีข้อจำกัดอย่างมากในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และมีนโยบายมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจำเป็นต้องมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่เสริมความมั่นคงให้แก่ระบบ

ทั้งนี้ “พอร์ตโฟลิโอคัมแพซ” ได้รับประโยชน์จากการที่โรงไฟฟ้ามาร์คัส ฮุก มีสัญญาระยะยาวในการขายกำลังผลิตส่วนใหญ่ให้แก่ลองไอส์แลนด์ พาวเวอร์ ออธอริที (The Long Island Power Authority – LIPA) และขายกำลังผลิตส่วนที่เหลือในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม (PJM) ในขณะที่โรงไฟฟ้ามิลฟอร์ดและโรงไฟฟ้าไดตันขายกำลังผลิตให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้านิวอิงแลนด์ (ISO-NE) โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ยังขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่ที่แต่ละโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ คือ PJM และ ISO-NE

อย่างไรก็ตามการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะสำเร็จหลังจากดำเนินการตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในการปิดรายการซื้อขายแล้วเสร็จ

ล่าสุดหุ้น EGCO ก่อนเปิดตลาดวันที่ 11 ก.ยคำพูดจาก อันดับ1 เว็บสล็อตตรง. 66 ราคาอยู่ที่ 131.5 บาทต่อหุ้น ปรับลดลงราว 4% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 EGCO ซื้อหุ้น 50% พอร์ตโรงไฟฟ้าคัมแพซ ในสหรัฐฯ  กำลังผลิต 1,304 เมกะวัตต์

ครม.เศรษฐา แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก 11 ก.ย. 2566

ประกาศแจ้งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด "เข้าบัญชี 18 ก.ย.2566" แน่นอน

ส่องสีใหม่ "iPhone 15" และ "iPhone 15 Pro" ก่อนเปิดตัวกันยายนนี้

ประกาศรายชื่อวอลเลย์บอลหญิงไทย "นุศรา" นำทัพชุดลุยศึกคัดโอลิมปิก 2024

YGG ปั้นฐานแน่นแล้ว จัดเต็มปี 2567 เกม-ภาพยนตร์-แอนิเมชัน มาครบ!

หนึ่งในประเด็นซึ่งเป็นที่พูดถึงอย่างมากในปี 2566 นี้ คือเรื่องของ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ที่รัฐบาลปัจจุบันชูเป็นนโยบายเพื่อส่งเสริมทั้งภาคท่องเที่ยวและธุรกิจ ดึงดูดเงินจากต่างชาติเข้าประเทศมากขึ้น

อุตสาหกรรมที่ถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์คือ “เกม” ซึ่งเมื่อพูดถึงวงการนี้ จับคู่กับคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ ก็เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึงเกม “Home Sweet Home” อย่างแน่นอน เพราะมีชื่อเสียงในฐานะเกมผีไทยที่สร้างความหลอนสั่นประสาทให้กับผู้เล่นและสตรีมเมอร์จากทั่วโลก

YGG จับมือฮอลลีวูด เปิดกล้อง “Home Sweet Home Rebirth” ธ.ค. นี้

3 เกมใหม่ใน Apple Arcade เตรียมเปิดให้เล่น ม.ค. 67

Apple เผยเกม-แอปฯยอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store ประจำปี 2023

เกม Home Sweet Home ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2560 ได้หยิบจับเอาความเป็นไทยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลอนในโรงเรียน นาฏศิลป์ไทย วัฒนธรรมความเชื่อแบบไทย ๆ มาปรุงแต่งจนสามารถเรียกได้ว่านี่แหละ ก็คือหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลไทยควรสนับสนุนและผลักดันให้ไปไกลยิ่งขึ้น

นั่นจึงทำให้เป็นที่น่าจับตาว่า ในปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ วงการเกมไทยจะเป็นอย่างไรต่อไปภายใต้การผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์

วงการเกมไทยภายใต้การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

คุณธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ถือเป็นโอกาสที่ดีของอุตสาหกรรมเกมไทย โดยมองว่าเป็นจุดซัพพอร์ตหรือการส่งเสริมเพิ่มขึ้นที่ดีคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด 2024

 YGG ปั้นฐานแน่นแล้ว จัดเต็มปี 2567 เกม-ภาพยนตร์-แอนิเมชัน มาครบ!

“ในอดีตเราอาจจะไม่ได้มีงบต่าง ๆ ในการทำอะไรเยอะแยะในประเทศ แล้วเรามองในเรื่องการช่วยผลักดันบริษัทอื่น ๆ หรือคนที่ยังอยู่ระหว่างการเติบโต อาจจะช่วยเขาให้พัฒนาเติบโตมากขึ้น ช่วยกันพัฒนา น่าจะมีงบในการพัฒนาตรงนี้เข้ามามากขึ้น” คุณธนัชกล่าว

ซีอีโอ YGG มองว่า ณ วันนี้ เห็นภาพใหญ่ของการที่ภาครัฐส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์บ้างแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของความบันเทิง และการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ ผ่านคอนเทนต์

คุณธนัชบอกว่า “ตรงนี้ก็จะมองเห็นว่า ภาครัฐก็เริ่มอัดฉีดงบประมาณในการส่งเสริมให้กับทุกหน่วยงานแล้ว … แต่ในฝั่งธุรกิจเอง ถ้าทำได้ ก็อยากให้ภาครัฐเป็นเจ้าภาพในการออกหน้าพูดคุยกับประเทศอื่น ๆ หรือหาเอเจนต์เพื่อไปเจรจาให้มันเกิดงาน เกิดภาพเม็ดเงินที่มันไหลเข้ามาเร็วขึ้น ผมคิดว่าถ้าภาครัฐเป็นเจ้าภาพ น่าจะทำให้คุยได้ง่ายขึ้น”

เขาเสริมว่า ปกติบริษัทมีการไปโชว์เคสโดยได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), กระทรวงวัฒนธรรม หรือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)

“งานเกี่ยวกับฟิล์ม งานแอนิเมชัน หน่วยงานรัฐก็มาส่งเสริม ผมคิดว่าตรงนี้เขาให้ความส่งเสริมแล้ว ทีนี้ยังขาดจุดเชื่อมโยง ถ้าได้เจ้าภาพช่วยเจรจาธุรกิจน่าจะยิ่งดี” คุณธนัชกล่าว

YGG วางรากฐานมั่นคงแล้ว พร้อมผลักดันโปรดักต์ของตัวเองเต็มสูบ

ในส่วนของความสำเร็จของ YGG เองนั้น คุณธนัชเปิดเผยว่า ในปีนี้ เป็นปีของการรวบรวมข้อมูลและเตรียมโปรดักต์ (ผลิตภัณฑ์) ที่จะเปิดตัวในปี 2567 โดยเน้นการทำให้งานส่วนบริการ (Service) ต่าง ๆ ให้มีความมั่นคง แล้วก็เตรียมโปรดักต์ซึ่งจะขึ้นสู่ต้นน้ำจริง ๆ “ปีหน้าก็จะได้เห็นกัน ปีหน้าเราจะได้เห็นโปรดักต์ที่พร้อมที่จะออก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเกม ภาพยนตร์ หรือแอนิเมชัน”

หนึ่งในโปรเจกต์สำคัญของ YGG ที่จะได้เห็นในปีหน้าคือ ภาพยนตร์ Home Sweet Home Rebirth” ที่จับมือกับฮอลลีวูด

“เราได้รับโอกาสจากฮอลลีวูด เขามาชื่นชอบในตัวของเกม Home Sweet Home แล้วก็อยากที่จะนำไปทำภาพยนตร์ ตัวนี้เหมือนเปิดโอกาสให้ทางบริษัท YGG เอง ได้ขยายแฟรนไชส์ของ HSH แล้วก็เพิ่มคอมมูนิตีของคนที่รักเกมนี้เพิ่มมากขึ้นในต่างประเทศ” คุณธนัชกล่าว

เขาเสริมว่า “ในขณะเดียวกัน ถ้าโปรเจกต์นี้ไปตามที่คาด ก็เท่ากับว่าเราสามารถนำเรื่องราวในภาพยนตร์มาทำเกมต่อได้อีก เพิ่มผู้เล่นมากขึ้น ถ้าดีก็ทำหนังต่ออีก ดังนั้นโปรเจกต์นี้ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ มันจะ Recurring ไปเรื่อย ๆ แล้วในอีกส่วนหนึ่งก็คือการที่ YGG สามารถต่อยอดแฟรนไชส์นี้ไปในภาคขยายส่วนอื่นตามที่เราถนัดได้เลย”

ในส่วนของบทภาพยนตร์นั้น ทางทีมฮอลลีวูดนำบทดั้งเดิมจากตัวเกมไปปรุงรสชาติตามความชอบและปรับมุมตามมองของคนทำภาพยนตร์ ในขณะเดียวกัน ทาง YGG ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับบริษัทด้วย นั่นคือ ช่องการจัดจำหน่าย (Distribution Channel)

“ฉะนั้น ถ้ามองภาพการเติบโตของ YGG จะเติบโตปลายน้ำไปต้นน้ำ และจนสุดเลยคือขายของเลยในอนาคต โดยของที่ขายอาจจะไม่ใช่ของเราแต่เป็นการจับมือ วันหนึ่งที่เริ่มมีโปรดักต์ออกมาเราก็เอาใส่เข้าไปในช่องทางของเราเลย นั่นคือสิ่งที่เราอยากจะทำ” คุณธนัชบอก

ในส่วนของนักแสดงที่จะมารับบทในภาพยนตร์ Home Sweet Home Rebirth นั้น เรียกว่าน่าตื่นตาอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น

  • ญาญ่า-อุรัสยาร์ สเปอร์บันด์ (น้องพี่ที่รัก, Fast And Feel Love)
  • มิเชล มอร์โรเน (365 Days, Subservience)
  • วิลเลียม โมสลีย์ (The Chronicles of Narnia saga, The Royals)
  • อเล็กซานเดอร์ ลี (Moorin School: Saga of the Brave, My Korean Jagiya)

สำหรับสถานที่ถ่ายทำก็จะเป็นประเทศไทย ซึ่งคุณธนัชมองว่า น่าจะตรงกับสิ่งที่ประเทศไทยต้องการอยู่แล้ว เป็นการต่อยอดจากซอฟต์พาวเวอร์

Home Sweet Home Rebirth นั้นคาดว่าจะได้รับชมช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างเลือกช่องทางว่าจะฉายผ่านโรงภาพยนตร์ หรือบริการสื่อผ่านอินเทอร์เน็ต (OTT Platform)

คุณธนัชกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ การทำงานของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะมี 3 ขาเดิมที่ดำเนินงานมา คือ วิชวลเอฟเฟกต์ แอนิเมชัน และเกม

“ชั้นนี้เป็นชั้นสำหรับการมห้บริการ สิ่งที่เราทำ ณ ตอนนี้คือเรากำลังทำชั้นที่สอง เพราะตอนนี้ชั้นแรกมั่นคงแล้ว ชั้นที่สองคือการนำเอาองค์ความรู้ทุกอย่างของเรามาทำโปรดักต์ ซึ่งก็จะแบ่งเป็นส่วนที่เราทำร่วมกับพาร์ตเนอร์ กับทำเอง 100% ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Home Sweet Home แล้วก็น่าจะเห็นในปีหน้าอีก 1-2 ตัวที่เป็นโปรดักต์ใหม่ของเรา” คุณธนัชบอก

เมื่อพูดถึงภาพยนตร์กันไปแล้ว มาในส่วนของแอนิเมชัน คุณธนัชเผยว่า YGG กำลังทำโปรดักต์ของตัวเองที่จะร่วมกับพาร์ตเนอร์ฝั่งเกาหลี คือ CJ ENM และฝั่งจีนคือ Tencent Video “เราร่วมกับเขาทำแอนิเมชันตัวหนึ่งคือ Hero Inside ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน”

ขณะที่ฝั่งเกม ซึ่งเป็นสาขาที่ทำให้ YGG เป็นที่รู้จักนั้น จะมีโปรดักต์ 2 ตัว คือ “แกรนโดรา” (GRANDORA) เกมที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์โลกของตัวเองขึ้นมา เหมาะสำหรับสายสร้างคอนเทนต์ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองลงไปอย่างเต็มที่

ส่วนอีกเกมจะเป็นเกมในโทรศัพท์มือถือ ชื่อ “ไนน์อายส์” (9EYES) เป็นความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นบริษัทมหาชน ลักษณะของเกมนี้พูดง่าย ๆ คือเป็นแนวสัตว์เลี้ยงคล้ายโปเกมอน (Pokemon) ซึ่ง YGG ประเมินว่ามีสิทธิ์ที่จะก่อเกิดรายได้พอสมควร

คุณธนัชยอมรับว่า สัดส่วนความสำเร็จของบริษัททุกวันนี้ รายได้ยังมาจากงานให้บริการมากกว่า แต่ปีหน้าไม่แน่

“เพราะปีหน้าโปรดักต์เสร็จ เปิดตัวเสร็จ รายได้จากโปรดักต์น่าจะคนละเรื่องกับรายได้จากเซอร์วิส” คุณธนัสกล่าว และเสริมว่า มั่นใจว่าทุกอย่างในปีหน้าจะดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะทุกอย่างอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นทั้งหมดแล้ว

สภาพอากาศวันนี้ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา

บุกช่วยเสือ 15 ตัว จากสวนสัตว์เอกชนปิดตัวหลังโควิด ปล่อยเสือป่วย-ผอมโซ

เปิดสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวด 30 ธันวาคม

FSB and PLYMKR announce their new Retail Channel Distribution Agreement

On September 19th, 2023 the global sports betting giant and superior i – Gaming platform provider in FSB has recently announced their newly formed partnership with the major sports technology supplier in PLYMKR. This new and exciting deal a significant multi – year retail channel distribution agreement.

The newly situated strategic positioning between FSB and PLYMKR will ensure that the London based company, PLYMKR, will exclusively disperse FSB’s honorable and award – winning retail technology stack of SSBT, EPOS, Companion App, and Odds Display to the United Kingdom as well as the markets relative to Ireland.

Although PLYMKR is now completely accountable for the overall commercial as well as the technical development of the retail stack, the ultimate product will remain fully – integrated into FSB’s elevated – performance Managed Trading Service through their multi – channel back – office operating platform. The 2022 EGR Multi – Channel Supplier of the Year Award winner will also preserve a shareholding in the up – and – coming PLYMKR company.

FSB and PLYMKR announce their new Retail Channel Distribution Agreement

This newly formed and long – term retail channel distribution agreement has to now follow the overall direction and outcome of FSB’s strategic plan / review come this December of 2022 where it will be led by the newly installed CEO, Adam Smith.

The platform provider recently announced that they would mainly focus singularly on the core market segments and the premier product of the organization in combination with major growth opportunities being centered on the wisely formulated channel partnerships.

Media Statements:

The Global Channel Partner Manager at FSB, Russell Colvin, stated, “This strategic partnership with PLYMKR heralds the start of an exciting new era for FSB. With a renewed increased laser – like focus on our core products we look forward to further strengthening the rapid global growth of our premium sportsbook, comprehensive casino aggregation and highly scalable empowering platform while actively welcoming new channel partnerships across our modular product portfolio.”

The Chief Commercial Officer at PLYMKR, Jamie Maskey, explained, “This is a milestone moment for PLYMKR as we form a channel partnership with FSB. We’ve been huge admirers of how they have developed and strengthened their retail stack in recent years and look forward to maintaining the momentum they have built up around this product.

 “We are looking forward to building relationships with FSB’s existing retail client base while developing this next generation product further to acquire new partnerships across the UK, Ireland and other territories. This partnership will fuel a long – awaited change in choice and methodology for the retail markets in many parts of the world.”

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดหลุด 34 คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย

เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักโดยตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.

ค่าเงินบาทแข็งค่า ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายคำพูดจาก เว็บตรง

เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 10,062 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3.48 ล้านบาท

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb)แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง และผู้ส่งออก แนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 34.10 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทแข็งโป๊ก หลุด 34 คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งเดียวในปีนี้

 ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดหลุด 34 คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย

แบงก์ชาติพบสื่อ มองม็อบไม่ฉุดเศรษฐกิจ หากไม่กระทบการท่องเที่ยว

"อ.ปริญญา" ชี้ เพื่อไทย ผลักดันเศรษฐกิจไม่ง่าย

นาย ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ มองว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้อยากเสียกระทรวงสำคัญในการผลักดันนโยบายต่างๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรฯ แต่ที่ต้องยอมเสียที่นั่งให้พรรคอื่น เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกฯ ได้

ซึ่งการที่โผออกมาแบบนี้ ก็น่าหนักใจแทน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะพรรคเพื่อไทยเหลือกระทรวงหลักที่จะผลักดันเรื่องเศรษฐกิจอยู่ในมือไม่กี่กระทรวง ทำให้โอกาสในการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคไม่ง่าย

“ชลน่าน” ชี้ เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ – ศึกษาฯ เป็นพรรคร่วมไม่มีปัญหา

“เอกนัฏ” เผย รายชื่อรัฐมนตรีสัดส่วน “รวมไทยสร้างชาติ” จบแล้ว

เป็นความท้าทายของนายเศรษฐาว่า จะสามารถบริหารงานกับกระทรวงที่เป็นโควต้าของพรรคอื่นได้มากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยยังได้เห็นฝีมือของนายเศรษฐา จากที่เคยประกาศว่า พรรคเดิมจะต้องไม่ได้กระทรวงเดิม แม้ตอนแรกสังคมจะตั้งคำถาม แต่สุดท้ายทำได้จริง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พรรคเพื่อไทย ได้โอกาสมากขึ้น เพราะหากเป็นโควต้ากระทรวงเดิม จะทำให้พรรคเพืือไทยดำเนินการต่างๆ กับกระทรวงที่เป็นโควต้าของพรรคอื่นลำบาก

นาย ปริญญา บอกอีกว่า หลังจากนี้ต้องรอดูว่า นายเศรษฐา จะแสดงฝีมือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เหมือนติดลบตั้งแต่เริ่มต้น จากการผิดสัญญาว่า จะจัดตั้งรัฐบาล โดย ไม่มีลุง สิ่งที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนได้คือผลงาน ซึ่งทางด้านเศรษฐกิจก็ดูจะทำไม่ง่าย

คำพูดจาก เล่นเกมสล็อตออนไลน์

 "อ.ปริญญา" ชี้ เพื่อไทย ผลักดันเศรษฐกิจไม่ง่าย

มวลชนส่งเสียงถึง ส.ว.เลือก"พิธา"เป็นนายกฯ

ไล่เรียงกัน ตั้งแต่ จังหวัดชียงใหม่ ที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 18.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 2566 กลุ่มประชาชนและนักศึกษาที่ ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มประชาธิปไตย รวมตัวชุมนุมชูป้ายสนับสนุนนายพิธา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมป้ายเรียกร้องให้ ส.ว. ยกมือสนับสนุนให้นายพิธา เพื่อเป็นการเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ที่เลือกพรรคก้าวไกลและต้องการให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนั้นก็ได้มีการวางพวงหรีดและร่วมกันแสดงความไว้อาลัยให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งผู้ชุมนุมมองว่า เป็นความพยายามของผู้ไม่หวังดี ที่พยายามจะสกัดกั้นนายพิธา ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยในวันนี้ 13 ก.ค. 2566ทางผู้ชุมนุมได้นัดหมายรวมตัวกันที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 09.00 นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เพื่อติดตามสถานการณ์การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่ จ.พัทลุง กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ซึ่งใช้ชื่อว่า "ประชาชนผู้ทรงอำนาจ จังหวัดพัทลุง" ได้จัดกิจกรรมแสดงเจตจำนงคนเมืองลุง เพื่อให้มีการรับรองนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

ด้านนายชาญชัย สุวรรณภักดี อดีตสจ.พัทลุง กล่าวในตอนหนึ่งว่า นายพิธา กำลังถูกมัดมือและถูกนำเข้าสู่หลักประหารทางการเมือง คะแนนเสียง 14 ล้านเสียงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ คนไทยตกอยู่ภายใต้การครอบงำของผู้ถือกฎหมาย คนไทยตกอยู่ในความกลัว นี่คือสิ่งเลวร้ายที่ไม่สามารถนำประเทศเดินไปข้างหน้าได้ แต่คนหนุ่มสาวและชาวไทยจำนวน 14 ล้านเสียงเขาไม่กลัวกันแล้ว

สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น ยังถูกยัดเยียดข้อหาหนักๆถึง 4 ข้อหา คือ การแก้ไขมาตรา 112 แยกดินแดน ปฏิรูปล้มล้างการปกครอง และ การถือหุ้นไอทีวี ซึ่งเป็นข้อหาที่หนักแต่ไร้สาระทั้งสิ้น

ขณะที่แกนนำพรรคก้าวไกล ในจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางเข้ายืนหนังสือขอจัดกิจกรรมชุมนุม ต่อผู้กำกับ สภ.เมืองศรีสะเกษพร้อมนัดหมายมวลชน "ส้มศรีสะเกษ" ร่วมชุมนุมวันนี้ 13 ก.ค.2566 หน้าศาลหลักเมือง เพื่อให้กำลังใจนายพิธา โดยกำหนดจัดกิจกรรมตั้งแต่ เวลา 16.30 – 21.00 น. ซึ่งได้รับการอนุญาตแล้ว พร้อมกันนี้ทางตำรวจ จะจัดกำลังไปดูแลความสงบเรียบร้อยด้วย

นายพรสิทธิ์ รักษาทรัพย์ ผู้ประสานงานการจุดชุมนุมสาธารณะ บอกว่า ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกส้มรักพ่อ มาร่วมแสดงออกในความจริงใจ ที่จะให้กำลังนายพิธา โดยนัดหมายสวมเสื้อส้ม หมวกส้ม ร่มส้ม หน้าศาลหลักเมือง แม้จังหวัดศรีสะเกษ จะไม่มี ส.ส.เขตเลย สักคน แต่พลังเสียงแบบบัญชีรายชื่อในจังหวัดศรีสะเกษ ก็มีคะแนนสูงในทุกเขต และ 13 ก.ค. จะเป็นอีกหนึ่งวัน ที่ส้มศรีสะเกษ จะได้แสดงออกถึงพลัง ในการร่วมเชียร์นายพิธา

แชร์สนั่น! รอยสักถึง ส.ว. ฟังเสียงประชาชน ต้องการ "พิธา"เป็นนายก

โหวตนายก : “อลงกรณ์” ขอให้ทุกฝ่ายมีสติ ยอมรับผลเลือกตั้ง ย้ำ “แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ”

โหวตนายก : “ชลน่าน” ยัน เลือกนายกฯ เพื่อไทยไม่มีแตกแถว

 มวลชนส่งเสียงถึง ส.ว.เลือก"พิธา"เป็นนายกฯ

ยื่นฟ้อง สส.แจ้ หมิ่นฯ ทุจริตรับเงินบ่อขยะ

วันที่ 27 พ.ย. 2566 นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชำนาญ ศิริรักษ์ ทนายความ ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อยื่นฟ้อง สส.แจ้ ในการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาว่าทุจริตการซื้อที่ดิน เอื้อบ่อขยะ

โดยวันนี้ ได้ให้ทนายมายื่นฟ้องคดีอาญา เรียกค่าเสียหาย และจะขอใช้กระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง จะได้พิสูจน์ความเป็นจริงว่า ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง

“สส.แจ้” แฉยับ! คนสนิทบิ๊กก้าวไกลรับผลประโยชน์โรงขยะ

“สส.แจ้”พ้อ! เพื่อนน้อย-ไร้คอนเนคชัน ทำให้ถูกขับออกจากพรรค

ด้าน นายชำนัญ ศิริรักษ์ ทนายความ ระบุว่า จากหลักฐาน พบว่า มีการกระทำผิด 4 ครั้ง 4 ครั้ง เป็นการพูดคุย 2 ครั้งและมีเทปการบันทึกสนทนาไว้และมีการถอดข้อความในการใส่ร้ายหมิ่นประมาท ส่วนอีก 2 ครั้งเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็น ผู้ช่วย ส. แต่ประชาชนก็รู้ได้ว่า เป็นใคร ซึ่งครั้งนี้ จะมีการเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท นอกจากนั้นขอให้ประกาศโฆษณาคำพิพากษาของศาลทางหนังสือพิมพ์และประกาศขอโทษและแก้ไขในทางแพลทฟอร์มที่จำเลยใช้ในพื้นที่ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวได้ โทรไปสอบถาม สส.แจ้ ในเรื่องนี้ สส.แจ้บอกว่า ทราบเรื่องแล้วว่าถูกฟ้องหมิ่นประมาท ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เป็นเรื่องปกติที่ทำได้ ส่วนในเรื่องที่ตนให้สัมภาษณ์ไป ก็ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อของผู้ช่วย และเป็นเอกสิทธิ์ของสส.ในการตรวจสอบ และตนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผู้ช่วยกำลังทำ เพราะผู้ช่วยเองก็ออกจากพรรคก้าวไกลไปแล้ว

คำพูดจาก สล็อต777

ลอยกระทง 2566 วันไหน มีตำนานประวัติความเป็นมาอย่างไร?

สุดสลด! “วิวาห์เลือด” เจ้าบ่าวรัวยิงเจ้าสาว-แม่ยาย-ญาติ ตาย 5 สาหัส 1

 ยื่นฟ้อง สส.แจ้ หมิ่นฯ ทุจริตรับเงินบ่อขยะ

“อามาเทราสุ” อนุภาคปริศนาตกลงมายังโลกจากพื้นที่ว่างเปล่าในอวกาศ

สื่อนอกรายงาน "พิธา" ชวดนายกฯ ไม่รอดด่านส.ว.

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า การประชุมร่วมของรัฐสภา ที่มีมติ "ไม่เห็นชอบ" ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ทำให้ความเสี่ยงที่ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจจะปะทุขึ้นอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ความหวังของคนไทยหลายล้านคนที่มีต่อการเริ่มต้นครั้งใหม่ของประเทศดูจะริบหรี่ลง

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า การลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับอิทธิพลทางการเมืองของนายพิธาและเป็นมาตรวัดเสียงคัดค้านที่มีต่อนโยบายเชิงต่อต้านระบบ (anti-establishment) ของพรรคก้าวไกล ซึ่งรวมถึง การแยกทหารออกจากการเมือง ทลายทุนผูกขาด ตลอดจน การเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ส่วนทางสำนักข่าวอัลจาซีร่า รายงานว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของนายพิธาเป็นความปราชัยครั้งล่าสุดของนักการเมืองและพรรคก้าวไกล ให้กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดำเนินคดีทางกฎหมายกรณีถือครองหุ้นสื่อไอทีวีพ่วงปมหาเสียง ม.112 ล้มล้างการปกครอง เพียงวันเดียวก่อนการโหวตเลือกนายกฯคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 สื่อนอกรายงาน "พิธา" ชวดนายกฯ ไม่รอดด่านส.ว.

ด้านสำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย ระบุว่า การโหวตเลือกนายกฯ มีขึ้นหลังการปราศรัยนานหลายชั่วโมงซึ่งมุ่งเน้นไปที่นโยบายการเสนอแก้ม. 112 ของพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ชี้แจงว่า การเสนอแก้ไขมาตราดังกล่าว เป็นไปเพื่อไม่ให้มีการนำมาตรานี้ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมทิ้งท้ายว่า ความมุ่งมั่นของพิธาที่จะปฏิบัติตามวาระของพรรคนำไปสู่การขัดแย้งกับสายสัมพันธ์อันทรงพลังของพรรคอนุรักษ์นิยมและตระกูลธุรกิจเก่าแก่ที่มีอิทธิพลเหนือการเมืองไทยมานานหลายทศวรรษ

สวิตเซอร์แลนด์ผุดเทคโนโลยี ช่วยผู้ป่วยโรคพาร์กินสันกลับมาเดินได้

มาร์กโกติเยร์ ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันวัย 63 ปี ต้องอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากประสบปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่ตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตของเขาเปลี่ยนไป หลังจากเป็นคนแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบโดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธรัฐสวิสในเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยให้เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง

เขาได้รับการผ่าตัดระบบประสาทเทียม เป็นการผ่าตัดนำอิเล็กโทรดวางไว้ที่ไขสันหลัง เมื่อใช้อุปกรณ์นี้ใช้ร่วมกับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าใต้ผิวหนัง ก็จะช่วยกระตุ้นไขสันหลัง ให้กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 สวิตเซอร์แลนด์ผุดเทคโนโลยี ช่วยผู้ป่วยโรคพาร์กินสันกลับมาเดินได้

เลียนแบบดวงตา “ผีเสื้อ” พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจจับ “เซลล์มะเร็ง” แม่นยำ 99%

ร้านสะดวกซื้อโคตรไม่สะดวกซื้อ ตั้งอยู่ “กลางหน้าผา” สูงเท่าตึก 40 ชั้น

“ธีอา” มีอยู่จริง? ดาวเคราะห์ที่พุ่งชนโลกจนเกิด “ดวงจันทร์”

ผู้ป่วยพาร์กินสันรายนี้บอกว่า สิ่งนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปเลย เพราะตอนนี้เขาสามารถออกจากบ้านไปทำธุระด้วยตัวเองได้แล้ว และก็ยังเดินออกกำลังกายได้ด้วย

โกติเยร์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสันเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง รวมถึงความบกพร่องในการทรงตัวและการเดินที่ติดขัด หลังจากได้รับการปลูกถ่ายซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูการส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อขาจากกระดูกสันหลังให้เป็นปกติ เขาก็สามารถเดินได้ตามปกติมากขึ้น

“ผมแทบจะเดินไม่ได้โดยไม่ล้มในบางสถานการณ์ เช่น เมื่อเข้าไปในลิฟต์ ผมจะเหยียบย่ำอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าผมถูกแช่แข็ง … แต่ตอนนี้ผทไม่กลัวบันไดอีกต่อไปแล้ว ทุกวันอาทิตย์ผมจะไปทะเลสาบ และเดินประมาณ 6 กิโลเมตร มันเหลือเชื่อมาก” โกติเยร์กล่าว

ทั้งนี้โรคพาร์กินสันเป็น โรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในเซลล์สมองบริเวณแกนสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สร้างสารสื่อประสาท และทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย

อย่างไรก็ตามเมื่อสารสื่อประสาทในสมองเสียสมดุล ตรงนี้ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ เกิดเป็นอาการสั่น เกร็ง และกระตุกของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ เช่น แขน ขา และคอ ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้มีรายงานประมาณการว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคนี้มากกว่า 8 ล้าน 5 แสนคน ในปี 2019

เผยโฉม 86 สาวงาม ชิง Miss Universe 2023 เงื่อนไขใหม่สาวข้ามเพศ-แต่งงาน-มีลูก เข้าประกวดลุ้นมง

โออาร์-บางจาก ลดเบนซินทุกชนิด สูงสุด 2.50 บาท มีผล 7 พ.ย.66 ตามมติ ครม.

สื่อนอกประเมิน นักท่องเที่ยวจีนกำลังหายไปจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

อีก 20 ปีข้างหน้า เราอาจมองไม่เห็นดาวบนท้องฟ้าอีกต่อไป

ในบางค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงจันทร์และหมู่เมฆ เราอาจมองเห็น ดวงดาวพร่างพราย ดาวตก และดาวเคราะห์บางดวง หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบก็อาจมองเห็นได้กระทั่งทางช้างเผือก แต่โลกในอนาคตจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป หลังนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า เราอาจมองไม่เห็นดวงดาวบนท้องฟ้าอีกต่อไป จาก “มลภาวะทางแสง”

 อีก 20 ปีข้างหน้า เราอาจมองไม่เห็นดาวบนท้องฟ้าอีกต่อไป

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า การใช้หลอดไฟ LED และแหล่งกำเนิดแสงรูปแบบอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างขึ้นในอัตราที่สูงมาก

การใช้แสงจากภายนอก ไฟส่องถนน ไฟป้ายโฆษณา และไฟในสนามกีฬา กำลังทำให้การมองเห็นดวงดาวของเรามืดลงเรื่อย ๆ

ในปี 2016 นักดาราศาสตร์รายงานว่า ในอนาคต 1 ใน 3 ของมนุษยชาติจะไม่สามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้อีกต่อไป และมลพิษทางแสงก็เลวร้ายลงอย่างมากตั้งแต่นั้นมา

กลาโหมสหรัฐฯ เผย เตรียมพร้อมสำหรับ “การสู้รบในอวกาศ” คำพูดจาก สล็อต777

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ คลองในเวนิสกลายเป็นสีเขียวเรืองแสง

“มลภาวะทางแสง” ทำให้คนบนโลกมองเห็นดาวบนฟ้าได้น้อยลงเรื่อย ๆ

ในอัตราปัจจุบัน นักวิทย์ประเมินว่า อีกไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า เราจะมองกลุ่มดาวหลักส่วนใหญ่ไม่เห็นและจะอ่านค่าไม่ได้ และจะเกิดผลกระทบทั้งในเชิงวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์อย่างรุนแรง

มาร์ติน รีส นักดาราศาสตร์หลวงแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “ท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมของเรา และมันจะเป็นปัญหาใหญ่หากคนรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสได้เห็นมัน เช่นเดียวกับที่พวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสเห็นรังนกอีกต่อไป … คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักดาราศาสตร์ก็สนใจเรื่องนี้ได้ ผมไม่ใช่นักวิหควิทยา แต่ถ้าไม่มีนกมาส่งเสียงร้องในสวน ผมคงรู้สึกเหมือนอะไรขาดหายไป”

รีสเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มสภาเพื่อท้องฟ้าที่มืดมิด ซึ่งเพิ่งจัดทำรายงานเรียกร้องให้มีมาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ไขปัญหามลภาวะทางแสง รวมถึงข้อเสนอในการแต่งตั้งรัฐมนตรีและคณะกรรมการเพื่อท้องฟ้าที่มืดมิด และกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับความหนาแน่นและทิศทางของแสง

คณะกรรมการเน้นย้ำว่า การแนะนำกฎและมาตรการเพื่อควบคุมแสงรบกวนพร้อมกำหนดบทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม สามารถสร้างความแตกต่างที่สำคัญได้

การวิจัยก่อนหน้านี้โดย ดร.คริสโตเฟอร์ ไคบา นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยธรณีวิทยาเยอรมัน ระบุว่า มลภาวะทางแสงกำลังทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างขึ้นในอัตราประมาณ 10% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่คุกคามการมองเห็นของดาวแทบทุกดวง ยกเว้นดาวที่สุกใสที่สุด

มีการคำนวณด้วยว่า เด็กที่เกิดในยุคที่สามารถมองเห็นดาวได้ 250 ดวงในตอนกลางคืน จะมองเห็นดาวได้เพียง 100 ดวงเมื่อถึงอายุ 18 ปี

เรียบเรียงจาก The Guardian

ภาพจาก AFP